หากให้พูดถึงแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง 7-Eleven คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะ 7-Eleven เป็นแฟรนไชน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 1 ของนักลงทุน โดยในปัจจุบัน 7-Eleven เปิดสาขาในทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทยกว่า 7,800 สาขา แฟรนไชส์ 7-Eleven
7-Eleven เป็นแฟรนไชส์ที่นักลงทุนให้ความสนใจและเลือกที่จะลงทุนมากเป็นอันดับที่ 1 ของแฟรนไชส์ที่เปิดให้บริการทั้งหมด เพราะ 7-Eleven เป็นกิจการค้าปลีกที่ดำเนินการในลักษณะร้านสะดวกซื้อ ขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นและใช้ในชีวิตประจำวันของทุกคน ซึ่งอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ 7-Eleven เป็นกิจการที่น่าสนใจ เพราะการให้บริการที่ดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง สามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอดเวลาและให้บริการด้วยความประทับใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ 7-Eleven ครองใจลูกค้าจำนวนมากทุกเพศทุกวัยและน่าจะทำกำไรให้กับนักลงทุนได้อย่างงาม
การเข้าร่วมลงทุนในกิจการของ 7-Eleven ต้องจ่ายค่าแฟรนไชส์ 1,500,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1
- อุปกรณ์การขายทุกรายการ 7-Eleven ดูแลให้
- สินค้า 7-Eleven ดูแลให้
- การตกแต่งภายในและภายนอกร้าน 7-Eleven ดูแลให้
- ค่าใช้จ่ายในการขอรับสิทธิ 480,000 บาท
- เงินสดค้ำประกัน 1,000,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 1,480,000 บาท
รูปแบบที่ 2
- อุปกรณ์การขายทุกรายการ 7-Eleven ดูแลให้
- สินค้า 7-Eleven ดูแลให้
- การตกแต่งภายในและภายนอกร้าน 7-Eleven ดูแลให้
- ค่าใช้จ่ายในการขอรับสิทธิ 1,730,000 บาท
- เงินสดค้ำประกัน 900,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 2,630,000 บาท
ระยะเวลาในการทำสัญญา
ประเภทที่ 1 6 ปี
ประเภทที่ 2 10 ปี
สิ่งที่น่าสนใจและข้อดีของแฟรนไชน์ 7-Eleven
สิ่งที่ทำให้แฟรนไชน์7-Eleven ได้รับความสนใจและมีผู้ซื้อแฟรนไชน์เป็นจำนวนมากเพราะ
1. เป็นกิจการที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีฐานลูกค้าจำนวนมาก
2. บริษัทมีการอบรมให้ทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติจนสามารถบริหารจัดการร้านได้เอง
3. บริษัทให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจและส่งเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาในกรณีที่มีปัญหาอย่างสม่ำเสมอ
4. บริษัทลงทุนให้ในเรื่องของอุปกรณ์ เครื่องมือและสินค้าตลอดอายุสัญญา
5. ได้รับเงินค้ำประกันคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาและได้ดอกเบี้ยคืนทุกปี
6. มีวงเงินกู้ในโครงการสินเชื่ออัตราพิเศษให้สำหรับร้านแฟรนไชส์